โอวาทกถา
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺญมหาเถร ป.ธ.๙) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
ในพิธีเปิดการฝึกอบรมพระธรรมทูต รุ่น ๕๒/๒๕๕๙
วันเสาร์ ที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙
ณ ศาลาสตมานุสรณ์ วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร


ขอเจริญพร คุณพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

       ท่านทั้งหลายจงภูมิใจที่ได้เป็นพระธรรมทูต เพราะไม่ได้เป็นได้เอง ต้องมีการอบรมแล้วจึงแต่งตั้งให้เป็นพระธรรมฑูต ตามที่ผู้อำนวยการฯ ได้ถวายรายงานให้ทราบแล้วนั้น จงมีความ ภูมิใจว่าเป็นพระธรรมทูต ก็ต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่พระธรรมทูต

Image         พระธรรมทูตมีฐานะเทียบเท่ากับเอกอัครราชทูตเหมือนกัน แต่ของเราคงไม่ถึงขั้นนั้น พูดให้สูงไว้เอง เอกอัครราชทูตเป็นผู้แทนของรัฐบาลแต่ละประเทศที่ไปประจำอยู่ประเทศนั้น ๆ

         ท่านทั้งหลายเป็นพระธรรมฑูตเป็นผู้แทนของพระศาสนา เป็นผู้แทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปประกาศศาสนธรรมในที่นั้น ๆ เรียกว่าเป็นตัวแทนของพระศาสนา

         ทั่วทั้งสังฆมณฑลมีพระสงฆ์สามสี่แสนรูปเป็นพระธรรมทูตไม่มาก พระธรรมทูตนั้น ไม่ใช่เป็นได้เอง ไม่ได้เป็นได้ง่าย ๆ ท่านทั้งหลายจงภูมิใจ และตั้งใจปฏิบัติงานที่ได้รับการแต่งตั้งแล้ว

         ท่านทั้งหลายจะต้องไปประกาศศาสนธรรมในที่ต่าง ๆ แต่ละตำบลแต่ละหมู่บ้าน แต่ละแห่งจะต้องไปประสบกับผู้ที่เราจะต้องเข้าไปประกาศศาสนธรรมในที่นั้น ๆ ต้องดูให้เหมาะสมกับถิ่นนั้น ๆ ว่าเขามีความต้องการอย่างไร เราก็ทำให้เหมาะสมแก่ความต้องการนั้น ๆ ความต้องการพื้นฐานของคนเรามี ๔ อย่าง คือ รูป, เสียง, ความเศร้าหมอง, ธรรมะ

         ประชาชนทั้งหลายมีความต้องการ ๔ อย่างนี้ บางคนก็ชอบรูป บางคนชอบเสียง บางคนชอบความเศร้าหมอง บางคนชอบธรรมะ เราต้องดูว่าเข้าไปคนกลุ่มนี้ เขาชอบอะไร กลุ่มนี้ชอบรูป กลุ่มนี้ชอบเสียง กลุ่มนี้ความเศร้าหมอง กลุ่มนี้ชอบธรรมะ เราก็สอนให้เข้ากับความต้องการของเขา

 

Image         คนที่ชอบรูปหมายความว่าเห็นพระสวย ๆ งาม ๆ เขาก็เกิดความเลื่อมใส เกิดความชอบใจ องค์นี้สวย องค์นี้งาม ท่านทั้งหลายอยู่ที่ประชุมนี้สวยทุกองค์ คำว่าสวยในที่นี้ไม่ได้หมาย ความว่าหน้าตาสดใส รูปร่างลักษณะดี ไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น นี้เป็นรูปธรรม นามธรรม เกิดมาอย่างไร ได้รูปร่างมาอย่างไร สูงต่ำ ดำ ขาว อ้วน ผอม

 

         แต่คำว่าสวยในที่นี้ หมายถึง "ศีล" ทำให้สวย ทุกคนเรามีอยู่แล้ว ศีลท่านทั้งหลาย ต้องสังวรระวังเรื่องศีลให้มาก เราก็ปฏิบัติรักษาเป็นปกติ พระมีศีลอย่างนี้ก็พยายามรักษาศีลของเราให้ดีไว้ เรื่องศีลปรากฏทางกาย ละทางวาจา หมายความว่าทำกาย และวาจาให้เรียบร้อยไว้ ทำวาจาให้ไพเราะ กายเรียบร้อย วาจาไพเราะ นี้คือตัวศีล

 

         เข้าไปในคนกลุ่มไหน รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ไม่ว่ากัน แต่เราต้องสำรวมระวัง นุ่งห่มให้เรียบร้อย พูดจาให้ไพเราะอ่อนหวาน คนกลุ่มนี้ก็เกิดความเลื่อมใส

 

Image         บางคนชอบเสียง ก็อย่างที่ฟังเพลงกัน ฟังดนตรีกัน คนนี้เสียงนุ่มนวล คนนี้เสียงสูง คนนี้เสียงต่ำ ขึ้นชื่อว่าเสียงก็เป็นเช่นเดียวกับรูป เป็นรูปธรรมนามธรรม บางคนมีเสียงดี บางคนมีเสียงไม่ดี บางคนมีเสียงดัง บางคนมีเสียงเบา เป็นธรรมดา ไม่ต้องคำนึงถึง แต่ต้องทำเสียงของเราให้ไพเราะด้วย การพูดคำอ่อนหวาน สมัครสมานสามัคคี คำสอเสียด คำเพ้อเจ้อ คำด่า ไม่ให้มีในวาจาของเรา ทุกคนชอบฟังคำไพเราะคำอ่อนหวาน แม้แต่สัตว์เดรัจฉาน หมา แมว ก็ยังชอบคำดี ๆ ดั้งแล้วก็กระดิกหางเข้าหา ถ้าเราพูดไม่ดี พูดเอ๊ะอะตึงตัง ดุด่าว่ากล่าว ก็ไม่เข้ามาหาเรา เป็นอย่างนี้จริง ๆ เรื่องมนุษย์ก็ยิ่งสำคัญ พูดดีเขาก็ชื่นชอบ เสียงเราเป็นอย่างไรไม่ต้องคำนึงถึง เพราะเป็นรูปธรรมนามธรรมได้มาอย่างนั้น แต่ต้องพูดให้ไพเราะ อ่อนหวาน ให้เกิดความสมัครสมานสามัคคี คนชอบเสียง รูปสวยไม่สวยเขาไม่ดู

 

         บางคนชอบความเศร้าหมอง พระรูปนี้นุ่งห่มสบง จีวร ซีดเชียว นุ่งห่มผ้าไม่สดใส เคร่งครัดมัธยัสถ์ บางคนชอบแบบนี้ ก็ตามใจเขา
บางคบชอบธรรมะ ไม่ห่วงเรื่องรูป เรื่องเสียง เรื่องความเศร้าหมอง ชอบว่าท่านสอนอะไร สอนดีไหม สอนธรรมะง่าย ๆ ให้ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน พอตื่นนอนขึ้นมาให้นึกถึงแต่ความดี เพื่อทำความดีต่อไป ความดีคืออะไร ก็สอนญาติโยมว่า ให้รักษาศีล ๕ ถ้าทุกคนมีศีล ๕ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดมุสา ไม่ดื่มสุราเมรัย ก็อยู่เย็นเป็นสุข บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข ไม่วุ่นวาย ไม่เดือดร้อน ศีล ๕ ข้อเป็นหลักประกัน ปาณาติบาตเป็นหลักประกันชีวิตของเรา

Image         เมื่อมีศีลข้อ ๑ การฆ่ากัน ทำร้ายกัน ก็ไม่มี ชีวิตเราก็ปลอดภัย ปัจจุบันนี้ไปที่ไหนไม่ค่อยปลอดภัย ถูกลูกหลงก็มี เขาไม่มีเจตนาทำร้ายเรา

         ศีลข้อ ๒ เป็นหลักประกันทรัพย์สมบัติ ถ้าทุกคนมีศีลข้อนี้ การลักขโมยกันก็ไม่มี

         ศีลข้อ ๓ เป็นหลักประกันครอบครัว ทุกคนเมื่อมีสทารสันโดษ เมื่อมีศีลข้อนี้ ครอบครัวก็ไม่ต้องระแวงสงสัยกันและกัน ก็อยู่เย็นเป็นสุข

         ศีลข้อ ๔ มุสาวาท เป็นหลักประกันสังคม ทุกสังคมต้องการความจริงต่อกันและกัน ถ้าสังคมนั้นไม่มีความจริงต่อกัน ก็อยู่ไม่ได้ มีศีลข้อนี้ก็ไม่มีการพูดปดมดเท็จต่อกันและกัน

         ศีลข้อ ๕ เป็นหลักประกันสุขภาพ คนเราเมื่อไม่ลุ่มหลงในสิ่งเสพติด สูบบุหรี่ ดื่มสุราเมรัย ของมึนเมา สุขภาพก็แข็งแรง ไม่มีโรคภัย หากไปลุ่มหลงสิ่งมึนเมา ติดยาเสพติด ติดบุหรี่ ดื่มสุราเมรัย เสียสุขภาพ โรคภัยเบียดเบียน

 

Image         การรักษาศีล ๕ เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ต่อสังคมและประเทศชาติโดยรวม ขณะนี้คณะสงฆ์และรัฐบาลกำลังรณรงค์ในเรื่องศีล ๕ ท่านทั้งหลายรู้อยู่แล้ว ได้มีคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการ ฯ ส่วนกลาง และมหาเถรสมาคมได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการ ฯ แต่ละหน มีหนกลาง หนเหนือ หนตะวันออก และหนใต้ หนละ ๗ รูป เพื่อให้โครงการ ฯ ได้เข้าถึงประชาชนยิ่ง ๆ ขึ้นไป

         ที่กล่าวมานี้เพื่อยกเป็นตัวอย่าง จะสอนธรรมะอะไรก็ได้ สติ สัมปชัญญะ ขันติ แต่สอนให้เขาเข้าใจ ก็จะได้ความสำเร็จในความเป็นพระธรรมทูต

         ขออนุโมทนากับท่านทั้งหลายที่ได้เสียสละรับงานพระธรรมทูต และขอให้ท่านทั้งหลายตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่นี้

         บัดนี้ เป็นเวลาอันเป็นมิ่งขวัญ สมควรแล้ว จึงขอเปิดการประชุมอบรมพระธรรมทูต ณ โอกาสนี้ และขออำนวยพร โดยอ้างอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และบารมีหลวงพ่อวัดปากน้ำ จงมาคุ้มครองท่านท่านทั้งหลาย ขอให้สุขภาพพลานามัยไร้โรคาพาธ ได้ความสำเร็จเป็นพระธรรมฑูต และให้เจริญรุ่งเรืองในพระศาสนาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธรรมสารสมบัติ จงทุกประการ เทอญ
______________________________________________________

ที่มา : หนังสืออบรมพระธรรมฑูต รุ่น ๕๒
ผู้พิมพ์ : พระศิริ สิริวฑฺฒโก (รอดบุญ) วัดชนาธิปเฉลิม (พระอารามหลวง) ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล ๙๑๐๐๐

นำเสนอโดย : พระมหาบุญโฮม ปริปุณฺณสีโล ป.ธ.๕,นธ.เอก,ศษ.บ.,MPA.(นิด้า) วัดท่าไทร ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ๘๔๒๙๐


หน้าหลักพระธรรมทูต รุ่น ๕๒/๒๕๕๙