เหยื่อสึนามิขวัญกระเจิง
หนีเข้าวัดยึดศาสนาเป็นที่พึ่ง เจ้าคณะจังหวัดเบรคหวั่นไม่เกิดประโยชน์
แนะสงบจิตใจเลิกฟุ้งซ่านก่อนให้บวช เผยอุปสมบทแล้ว 2 รายที่กระบี่และพังงา
เตรียมขอพระนักเทศน์จากวิทยยาลัยสงฆ์ 30 รูป บำบัดจิตชาวพุทธในพื้นที่
พระปัญญาวุธธรรมคณี
เจ้าคณะจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า การเสียชีวิตจากภัยธรรมชาติครั้งนี้
คร่าชีวิตประชาชน เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านหลายรายที่ต้องสูญเสีย ถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัวก็มีอยู่จำนวนไม่น้อย
โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่บริเวณชายหาด หรือชาวประมง ซึ่งนอกจากคนในครอบครัวต้องล้มหายตายจาก
และสูญหาจนหาไม่พบแล้ว ทรัพย์สมบัติที่มีอยู่เพียงน้อยนิดก็ถูกภัยธรรมชาติพัดหอบไปจนเกลื้อง
ทำให้หลายคนไร้ที่พึ่ง และแสดงอาการเครียด เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นรวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัวและไม่สามารถรับสภาพกับเหตุการณ์ดังกล่าว
พระปัญญาวุธธรรมคณี
กล่าวอีกว่า สิ่งดังกล่าวทำให้จิตใจของผู้รอดชีวิตขุ่นมัว ซึ่งมีจำนวนมากที่ยึดเอาศาสนาเป็นที่พึ่ง
และสงบจิตใจ ตัดสินใจขอบวช ศึกษาอยู่กับพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
ล่าสุดชาวบ้านซึ่งทำงานอยู่ที่เกาะพีพี สูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างจากเหตุการณ์ครั้งนี้ขออุปสมบทแล้ว
1 ราย ที่วัดควนสบาย เขต อ.เมือง จ.กระบี่ โดยก่อนให้บวชนั้นให้ชายคนดังกล่าวทำสมาธิ
และยุติความฟุ้งซ่านในจิตใจเสียก่อนเพราะหากยังเครียดอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น
เชื่อว่าการบวชเพื่อศึกษาพระธรรมก็จะไม่สัมฤทธิผล
เจ้าคณะจังหวัดกระบี่
กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีประชาชนอีกจำนวนหลายรายที่ขออุปสมบทที่วัดต่างในจังหวัดกระบี่
แต่ขณะนี้ ได้แจ้งให้เจ้าอาวาสทราบว่าเบื้องต้นจะต้องบำบัดสภาพจิตใจของประชาชนเหล่านี้
ให้อยู่ในภาวะที่พร้อมก่อนที่จะเดินก้าวสู่ร่มกาเสาวภัตรเสียก่อน ไม่เช่นนั้นก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไร
หากต้องการบวชเพื่อหนีปัญหา
"ขณะนี้วัดหลายแห่งในจังหวัดกระบี่
มีพุทธศาสนิกชนเข้ามาอาศัยและพักพิงภายในวัด เพื่อนั่งสมาธิ และทำจิตใจให้สงบ
ก่อนที่จะตัดสินใจบวช ซึ่งเชื่อว่าเมื่อทุกคนมีสมาธิ เข้าใจในโลกและสิ่งที่เกิดขึ้นบางคนอาจจะมีกำลังใจกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่กับชีวิต
ส่วนใครที่พร้อมจะศึกษาพระธรรมก็จะรับบวชตามพิธีการทางพุทธศาสนา"เจ้าคณะจังหวัดกระบี่ระบุ
พระศรีปฏิภาณธรรมคณี
เจ้าคณะจังหวัดพังงา กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้นอกจากความสูญเสียที่เกิดขึ้นแก่ชีวิตและทรัพย์สินแล้ว
สภาพจิตใจ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ชาวบ้านผู้รอดชีวิตจำนวนมาก หันหน้าเข้าพระธรรมยึดเอาศาสนาเป็นที่พึ่ง
ขอบวชและศึกษาอยู่ในโลกพระธรรมแต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะบวชเรียนได้ทันที
แต่ละคนจะต้องมีความพร้อมโดยเฉพาะจิตใจที่จะต้องเข้ามาเรียนรู้ในเรื่องธรรมะด้วยจิตใจที่เปี่ยมสุข
ไม่ใช่บวชเรียนแล้วยังมีความกระวนกระวายใจอยู่ โดยขณะนี้ได้รับพิจารณารับบวชแล้ว
1ราย ที่วัดประชุมโยธี อ.เมือง ส่วนรายอื่นๆ ก็ยังให้อยู่ในระหว่างการฟื้นฟูจิตใจและศึกษาความรู้
ควบคู่กับการทำสมาธิภาวนาจิต
พระศรีปฏิภาณธรรมคณี
กล่าวอีกว่า นอกจากชาวบ้านที่ต้องการลืมภาพเหตุการณ์ความสูญเสียโดยการขอบวชแล้ว
พระภิกษุสงฆ์ในจังหวัดพังงาจำนวนมากต้องออกทำพิธีทางศาสนากิจแก่ศพผู้เสียชีวิตในพื้นที่ต่างๆ
อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการเทศนาเพื่อบำบัดและฟื้นฟูจิตใจชาวบ้านให้ดีขึ้น
เนื่องจากชาวบ้านจำนวนมากอยู่ในอาการซึมเศร้า บางที่เป็นโรควึมทั้งหมู่บ้าน
และอยู่ในอาการน่าเป็นห่วง ทันทีที่ได้ใกล้ชิดคำสอนของพระพุทธเจ้าเริ่มมีท่าทีที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
จึงเห็นว่าเป็นช่องทางหนึ่งที่ผู้เผยแผ่ศาสนาจะเข้ามาช่วยเหลือพระชาชนยามทุกข์ยากในช่วงนี้
จึงวางแผนระดมส่งพระที่เป็นนักเทศน์ชั้นเยี่ยมออกให้ความรู้เพื่อฟื้นสภาพจิตใจชาวบ้าน
แต่เนื่องจากพระภิกษุสงฆ์มีอยู่จำนวนจำกัด จึงได้ประสานไปยังมหาวิทยาลัยสงฆ์
จุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เพื่อขอพระนักเทศน์และมีความรู้เพื่อร่วมบำบัดและฟื้นฟูสภาพจิตใจของชาวบ้านลงพื้นที่จำนวน
30 รูป
"การฟื้นฟูจิตใจชาวบ้านด้วยวิธีทางด้านการแพทย์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอาจจะได้ผลระดับหนึ่ง
แต่อย่าลืมว่าชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นประชาชนระดับรากหญ้า หากให้ความเข้าใจโดยใช้ศาสนา
ซึ่งเป็นสถาบันหนึ่งที่อยู่ใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันมากที่สุดจะทำให้สามารถฟื้นฟูความรู้สึกเศร้าสลดได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน"พระศรีปฏิภาณ
กล่าว
นอกจากนี้แล้วการตระเวณออกปฏิบัติศาสนกิจในงานศพของผู้เสียชีวิต
พื้นที่จังหวัดพังงา ซึ่งมีจำนวนมาก และพระไม่เพียงพอ ได้ขอให้ญาติผู้เสียชีวิตที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพอยู่ไม่ห่างกันให้นำศพมาจัดในงานยเดียวกันเพื่อพระภิกษุจะสามารถเดินทางไปประกอบพิธีทางศาสนาได้อย่างทั่วถึง
ส่วนศพที่ตั้งบำเพ็ญกุศลในวัดไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะพระภิกษุสามารถทยอยและสลับสับเปลี่ยนกันได้อย่างต่อเนื่อง
เจ้าคณะจังหวัดพังงา
กล่าวอีกว่า มติของที่ประชุมสงฆ์ร่วมกับเจ้าคณะภาค จะจัดพิธีสวดอุทิศส่วนกุศลครั้งใหญ่แก่ผู้ล่วงลับครบรอบ
50 วัน และเพื่อเป็นการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย พร้อมทั้งสวดเจริญพระพุทธมนต์
เรียกขวัญแก่ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์คลื่นสึนามิถล่มครั้งนี้ โดยจะมีพระภิกษุสงฆ์ทั่วประเทศ
ร่วมทั้งจากพื้นที่ภาคใต้ และสำนักพระพุทธศาสนาร่วมกับมหาเถร สมาคม
ส่งพระชั้นผู้ใหญ่ร่วมงานครั้งนี้ ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะจัดขึ้นที่เขาหลัก
ซึ่งเป็นจุดที่พบผู้เสียชีวิตมากที่สุด
ที่มา: นสพ.คมชัดลึก 4 ม.ค.48
|