ผ่าวิกฤติคลื่นยักษ์สึนามิ หลายชีวิตรอดตายด้วยพลังแห่งศรัทธา

ช็อกโลก!!!...07.58 น. วันที่ 26 ธันวาคม 2547 เกิดแผ่นดินไหว ณ ชายฝั่งตะวันตกเกาะ สุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ทำให้เกิดสึนามิคลื่น ยักษ์ถล่มประเทศต่างๆ ในแถบมหาสมุทรอินเดีย

คลื่นแห่งความโหดนี้ ได้กลืนชีวิตมนุษยโลกล้มตายกัน คาดคะเนว่าจะถึง 1.5 แสนคน โดยเฉพาะ อินโดนีเซียเมืองต้นเหตุได้รับรางวัลที่ 1 ตายไป 94,200 คน รองลงมาคือ ศรีลังกา และ อินเดีย

ส่วนบ้านเราคือที่นี่ ประเทศไทยโดนรางวัลที่ 4 มีผู้บาดเจ็บจากที่คลื่นพากระแทกสายน้ำ 8,457 ราย พร้อมๆกับสูญหาย 3,716 ราย (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าในจำนวนนี้จะมีผู้ชีวิตรอดมา อีกหรือไม่) เชื่อแน่ว่าโอกาสที่จะกลับมาหายใจอีกนั้นริบหรี่เต็มที และที่ แน่นอนว่าไม่ฟื้นแน่ๆ 5,288 ราย...

O O O

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ในครั้งนี้ส่งผลทำให้ คนตายกันเป็นเบือ ก็มีบางรายที่อยู่ในเหตุการณ์ แล้วเกิดปาฏิหาริย์ รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด เช่นกัน อย่างเช่น นางแอ๋ว กันตังกุล อายุ 55 ปี เจ้าของร้านอาหาร "แอ๋วซีฟู้ด" เลขที่ 74 หมู่ 3 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

ซึ่งเธอได้เล่าว่า ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์นั้นได้ออกมา จัดเตรียมข้าวของที่จะขาย ให้กับนักท่องเที่ยว จู่ๆก็เกิดคลื่นยักษ์โถมเข้ามาใส่ตัวเธออย่างไม่ทันรู้ตัว จนตัวเธอนั้นลอยละลิ่วไปกับความแรงของน้ำ ในช่วงนั้นได้ตั้งสติเอามือข้างหนึ่ง กำเหรียญหลวงพ่อคูณกอดใส่อกแน่น

ในช่วงนั้นได้เห็นนักท่องเที่ยวหลายคนที่ตายไปต่อหน้าต่อตา แต่ว่าพอน้ำลดลง เธอกลับไม่เป็นอะไรเลย เพียงแค่ขัดยอกลุกไม่ขึ้นเท่านั้นเอง สักพักก็ค่อยๆพยุงตัวคลานและเดินออกมาจากจุดเกิดเหตุได้...

...ซึ่ง นางแอ๋วเชื่อแน่ว่าที่เธอรอดตายครั้งนี้มาจากพลัง ของเหรียญหลวงพ่อคูณแน่นอน ในขณะเดียวกันที่ตัวหลวงพ่อคูณเองยังนอนให้ แพทย์ดูแลที่โรงพยาบาลศิริราช

O O O

อีกรายคือ นายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง (ส.ว.อ่างทอง) ได้ เดินทางไปที่จังหวัดภูเก็ต ในเช้าวันเกิดเหตุกับการบินไทย โดยตั้งใจ จะไปในงานพิธี พระราชทานดินฝังศพมารดา ของ ส.ว.ไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ ในช่วงบ่าย

และก็ตั้งใจว่าในช่วงเช้า พอไปถึงก็ จะไปพักผ่อนที่กะตะธานี หรือ เมอริเดียน เพื่อรอให้ได้เวลาแล้วจะไปงาน จากนั้นจึงจะไปกราบ ท่านเจ้าคุณพระมงคลวิสุทธิ "หลวงปู่สุภา กันตะสีโล" พระอริยสงฆ์ห้าแผ่นดินอายุ แห่งวัดสีลสุภาราม อ.เมืองภูเก็ต

(หลวงปู่สุภา อายุ 109 ปี เกิดที่จังหวัดสกลนคร เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ตั้งแต่เป็นสามเณร เป็นศิษย์ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ร่วมสำนักเดียวกับเสด็จเตี่ย "กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์" ซึ่งมีพลังในทางมงคลด้วยการสร้างแมงมุม ตั้งแต่เป็นสงฆ์มาไม่เคยได้รับฐานะอันใดเลยแม้แต่ "พระครู" มาเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา เข้าสู่พรรษาที่ 89 จึงได้ฐานะเป็น เจ้าคุณชั้นสามัญ ที่ พระมงคลวิสุทธิ)

เมื่อ รองประธานวุฒิสภามาถึงก็โทร.ไปหาหลวงปู่สุภา ก่อนเพื่อที่จะนัดเวลา แต่พอ หลวงปู่รับสาย และรู้ว่าใคร ก็บอกว่า... ให้มาหาหลวงปู่ก่อนถึงเพล แล้วจึงค่อยไปไหน

O O O

ซึ่งในครั้งแรก รองฯนิพนธ์ ไม่อยากจะทำตาม แต่ด้วยความเกรงใจจึงไป พอได้พบกับ หลวงปู่ สุภา ท่านก็ได้หยิบ พระกริ่งปวเรศก้นทองคำมอบให้ 1 องค์ ทั้งๆที่ไม่ได้ ขอ และ หลวงปู่ สุภา ก็บอกว่า... เก็บเอาไว้แล้วจะแคล้วคลาดปลอดภัย

(หลวงปู่สุภา สร้างพระกริ่งฉลองที่ได้ฐานะ โดยในองค์พระได้ บรรจุพระธาตุสัณฐานเมล็ดถั่วแตก เส้นเกสาหลวงปู่สุภา และ ผ้าขาวม้าที่ปลุกเสก โดยโบราณเชื่อว่าผ้าขาวม้าเป็นมงคลวัตถุที่รวมพุทธคุณไว้อย่างดี มีตามากจะป้องกันภัยได้ดี)

ในช่วงที่อยู่ที่วัดนั้น ก็มีโทรศัพท์เข้ามาหารองฯนิพนธ์ หลายครั้ง ซึ่งก็มี พรรคพวกที่ดื่มกาแฟรออยู่ที่กะตะธานี กับ ส.ว.ไพบูลย์ที่รออยู่ ที่วัดโฆษิตวิหาร รองฯนิพนธ์ ก็ได้แต่กระสับ กระส่ายว่าจะทำอย่างไรดี

แล้ว หลวงปู่สุภาก็บอกว่า ถ้าร้อนใจก็ไปได้ แต่ว่าให้ไปที่วัดโฆษิตวิหารงานศพแม่เพื่อน ไม่ต้องไปที่โรงแรม รองฯนิพนธ์ก็ปฏิบัติตาม

และเมื่อมาถึงวัดโฆษิตวิหารสักพักใหญ่ นายเรวัตร อารีชอบ เจ้าของโรงแรมอันดามันเพลส มาถึงได้บอกว่า เกิดแผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย จะต้องมีผลกระทบถึงภูเก็ตแน่ ในระหว่างที่กำลังพูดกันอยู่นั้น ก็มีข่าวคลื่นน้ำถล่มกะตะ กะรน ป่าตอง พังพินาศ มีคนล้มตายหลายคน

...พอสิ้นเสียงการประกาศข่าว รองฯนิพนธ์ถึงกับถอนใจเฮือกใหญ่ แล้วพูดกับพรรคพวกว่า...ผมรอดตายเพราะหลวงปู่แท้ๆ ถ้าไปที่กะตะหรือป่าตอง โดยไม่เชื่อคำของท่าน อาจเป็นผีเฝ้าหาดแน่ หรือว่าที่ รอดตายเพราะพลังของพระกริ่งปวเรศ องค์นี้ก็ไม่รู้...เล่นเอา หลังจากงานศพแล้วเสร็จผู้คนแห่ไปที่วัดสีลสุภาราม ไปขอพระกริ่งกันคนละองค์สององค์

O O O

อีกคนคือ คุณวิมล เสรีสนะเวช บ้านอยู่ตำบลเวียงผาคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย กับครอบครัวเดินทาง ไปพักผ่อนที่หมู่เกาะพีพี และในวัน ก่อนที่จะไปเกาะนั้น ได้แวะที่วัดสีลสุภาราม นมัสการหลวงปู่สุภา

ซึ่ง หลวงปู่ได้มอบพระกริ่ง ปวเรศให้คนละองค์ ก็เอาใส่กระเป๋าเสื้อไว้ ในช่วงเช้าวันที่ 26 ธันวาคม ประมาณ 09.30 น. ระหว่างที่ นั่งอยู่ริมชายหาดได้เห็นสิ่งผิดปกติ น้ำทะเลลดลงอย่างรวดเร็วจากชายหาดแบบวูบเลย

หลังจากนั้น น้ำก็ขึ้นมาใหม่และก็มีเสียงคนร้องตะโกนบอกให้วิ่งหนี ก็เลยพาครอบครัววิ่งไปและเห็นสายน้ำอีกด้านหนึ่งก็ซัดเข้ามาเหมือนกัน แล้วน้ำทั้งสองคลื่นก็กระทบกันปะทะกับกำแพง ตัวเธอกับครอบครัวถูกน้ำพัด ไปติดที่ซอกตึก ตอนนั้นก็คิดว่าไม่รอดแล้ว เพราะตลอดเวลามีสิ่งของปลิวลอยมาทับเต็มไปหมด ก็ได้แต่ภาวนาว่าให้พระกริ่งหลวงปู่ช่วยคุ้มครอง

ก็แปลกเหมือนกัน หลังจากที่คลื่นสงบก็เหมือนกับว่า มีใครมาช่วยดุนตัวเธอให้ผุดขึ้นเหนือน้ำ เธอกับครอบครัวจึงพากันปีนป่าย ขึ้นไปชั้นบนของตึก...เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพียงชั่ววูบที่ชีวิตนี้เธอจะลืมไม่ลง

...และที่ยังสงสัยยังหาคำตอบไม่ได้ว่า...ดวงไม่ถึงที่ตาย หรือว่าได้พลังพระกริ่งช่วย!!!

"ก้อง กังฟู"

ที่มา :

นสพ.ไทยรัฐ ฉบับ 9 มกราคม 2548 (คอลัมน์เหนือฟ้าใต้บาดาล)

กลับไปหน้า Web วัดท่าไทร
ไป Web สำนักงานเจ้าคณะภาค ๑๖

ไป Web ศูนย์พัฒนาคุณธรรมภาคใต้
ไป Web วิทยุชุมชนตำบลท่าทองใหม่
ไป Web ชมรมวีอาร์ร้อยเกาะสุราษฎร์ธานี