|
เปิดคำทำนายแม่นยำราวตาเห็นเมื่อปี
2541 ของ"สมิทธ ธรรมสโรช" เตือนภัยภาคใต้ของไทยจะโดนคลื่นยักษ์สึนามิถล่ม
โดยให้สัมภาษณ์กับ"ข่าวสด"ไว้อย่างชัดเจน ระบุภาคใต้ฝั่งตะวันตกของไทยเป็นจุดอันตราย
แต่ไม่มีใครเชื่อ ระบุแผ่นดินไหวใต้ทะเลเป็นวัฏจักรทุกๆ 80 ปี ครั้งสุดท้ายที่เคยเกิดขึ้นคือเมื่อปี
2457
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. นายสมิทธ ธรรมสโรช อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
กล่าวถึงมาตรการระวังภัยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ขนาดใหญ่บริเวณชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งอันดามันว่า
หลังเกิดเหตุเศร้าสลดจากการสูญเสียชีวิตในเหตุคลื่นยักษ์ถล่มพื้นที่ภาคใต้ที่ผ่านมา
จนกลายเป็นกรณีตัวอย่างที่เราควรให้ความสำคัญและต้องระมัดระวังให้มาก
เพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย
ควรออกระเบียบสำหรับป้องกันภัยจากแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ขนาดใหญ่พัดเข้าฝั่งทะเลจนสร้างความเสียหาย
โดยให้บ้าน อาคาร สิ่งปลูกสร้าง โรงแรม รีสอร์ต บังกะโล ที่อยู่ติดริมทะเล
มีการปักป้ายคำเตือน มีป้ายประกาศเตือน หรือมีสัญญาณเตือนภัยไว้เพื่อบอกเหตุระวังภัย
สำหรับนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่อยู่ติดชายหาด เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณจะได้ระวังป้องกันได้ทันท่วงที
ส่วนเรือที่อยู่กลางทะเล เมื่อได้รับสัญญาณเตือนจะได้ถอยออกไปกลางทะเลได้ทัน
"กระทรวงมหาดไทยควรจะต้องออกระเบียบอย่างเป็นทางการ หรือจัดตั้งศูนย์เตือนภัยล่วงหน้าบริเวณชายฝั่ง
สำหรับเป็นช่องทางเตือนภัยล่วงหน้า ซึ่งสามารถเตือนภัยตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว
เรามีเวลาเตรียมป้องกันการซัดของคลื่นยักษ์เข้าหาฝั่งได้ร่วม 1 ชั่วโมง
มีเวลาเตรียมตัวได้เพียงพออย่างแน่นอน ส่วนวิธีการเตือน
เมื่อแผ่นดินไหวรุนแรงในระดับ 8 ริกเตอร์ ควรมีการชักธงเตือนให้ผู้คนริมชายฝั่งได้ทราบว่าเริ่มจะไม่ปลอดภัยแล้ว
หรือถ้าเป็นกลางคืน ควรมีเสียงสัญญาณเตือนดังแบบสัญญาณไฟไหม้ให้เตรียมตัวกัน
รวมทั้งพื้นที่ชายฝั่งที่มีความเสี่ยงสูง ควรมีการจัดเตรียมสถานที่หลบภัย
ที่มีความมั่นคงแข็งแรง ออกแบบได้มาตรฐานป้องกันการซัดพังทลายของคลื่นน้ำ
และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากพอสมควร" อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสมิทธ ธรรมสโรช เคยออกปากเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิมาหลายปีแล้ว
ตั้งแต่เมื่อปี 2541 โดยนายสมิทธให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ข่าวสดไว้เมื่อวันที่
12 ส.ค. 2541 สมัยเป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคม ข้อความว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดคลื่นยักษ์"สึนามิ"
อย่างที่เคยเกิดขึ้นที่ปาปัวนิวกินี
เมื่อประมาณก.ค.ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิตหลายพันคนมาแล้ว โดยบริเวณภาคใต้ชายฝั่งทะเลตะวันตกของไทยจะเป็นจุดอันตรายมาก
ซึ่งตนได้ออกมาเตือนก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่ปีพ.ศ.2536 แต่มีคนจำนวนมากรวมทั้งนักวิชาการต่างก็ไม่เชื่อคำเตือนของตน
นายสมิทธกล่าวครั้งนั้นว่า ปรากฏการณ์แผ่นดินไหวจากใต้ทะเลจะเกิดเป็นวัฏจักร
คือในรอบ 80 ปีขึ้นไปจะเกิด 1 ครั้ง ซึ่งสถาบันวิจัยเรื่องแผ่นดินไหวของสหรัฐ
ได้บันทึกประวัติการณ์เกิดแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางจากรอยเลื่อนในบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามันไว้เมื่อวันที่
11 ก.ย.2457
ว่าเกิดแผ่นดินไหวมีความรุนแรงถึง 7.2 ริกเตอร์ ต่อมาวันที่ 16 พ.ค.2476
ก็เกิดเหตุการณ์เดียวกันในบริเวณเดียวกันอีก แต่ครั้งหลังมีความรุนแรงเพียง
6.5 ริกเตอร์ ซึ่งตามหลักการเกิดแผ่นดินไหวแล้วมีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะเกิดซ้ำเป็นวัฏจักรอีก
"ในสมัยนั้นการถ่ายทอดข่าวสารวิทยาการระหว่างกันยังมีน้อยมาก อีกทั้งบริเวณแถบทะเลอันดามันก็ยังไม่มีคนอยู่อาศัยมากนัก
แต่ในปัจจุบันมีสิ่งก่อสร้างและมีคนอาศัยอยู่จำนวนมาก หากเกิดเหตุการณ์จริงผมเชื่อว่าประเทศไทยจะได้รับความเสียหายมากกว่าปาปัวนิวกินีถึง
100 เท่า" อดีตอธิบดีกรุมอุตุฯกล่าว
|