เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก
จ.พังงา ว่า คณะเจ้าหน้าที่จากองค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) จำนวน 5
คน เดินทางเข้าพบชาวบ้านที่ยังคงได้รับความเดือดร้อนจากคลื่นยักษ์สึนามิ
ที่ชุมชนทับตะวัน บ้านบางสัก หมู่ 7 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
โดยแจ้งว่า ต้องการมารับทราบข้อมูลความช่วยเหลือ ว่ามีใครมาช่วยเหลือบ้าง
เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปนำเสนอในการประชุมของยูเอ็นเร็วๆ นี้ ทางตัวแทนชาวบ้านนำเสนอว่า
ชุมชนทับตะวันเป็นชุมชนที่ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐน้อยมาก การก่อสร้างบ้านพักถาวรเป็นความช่วยเหลือจากอาสาสมัครคนไทย
และองค์กรต่างประเทศ อีกทั้งถูกนายทุนข่มขู่ไม่ให้สร้างบ้าน ไม่ให้จอดเรือในพื้นที่สาธารณะ
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นอกจากกลุ่มชาวบ้านชุมชนทับตะวัน
และอีกหลายชุมชนในอ.ตะกั่วป่า ผู้เดือดร้อนจากคลื่นสึนามิ ที่ยังคงประสบปัญหาถูกนายทุนไล่ที่แล้ว
ยังเกิดเหตุในลักษณะเดียวกันที่สำนักสงฆ์เกาะคอเขา ตั้งอยู่บนเกาะฝั่งตรงข้ามบ้านน้ำเค็ม
อ.ตะกั่วป่า เนื่องจากในขณะนี้ถูกนายทุบยึดที่เดิมของสำนักสงฆ์ และกำลังก่อสร้างโรงแรมหรูขาดใหญ่
2 แห่ง ในพื้นที่ของสำนักสงฆ์
พระครูสมุห์บรรจบ กนฺตจาโร อายุ 72 ปี เจ้าสำนักสงฆ์ กล่าวว่า
"อาตมาจำพรรษาเริ่มก่อสร้างสำนักสงฆ์เมื่อปี 2527 บนเกาะคอเขามีเนื้อที่
ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีหาดทรายทอดยาวขาวสะอาด มีป่าชายเลน มีภูเขา
ช่วงที่เกิดคลื่นสึนามิชาวบ้านส่วนหนึ่งหนีขึ้นไปอยู่บนภูเขา ทำให้ปลอดภัย
แต่ยังมีคนที่หนีไม่ทันเสียชีวิตจำนวนมาก ส่วนความเสียหายในสำนักสงฆ์
มีกุฏิ 8 หลัง ถูกน้ำพัดเสียหาย นอกนั้นมีอาคารศาลาการเปรียญ 2 หลัง
รถกระบะ 2 คัน ที่ผ่านมามีอาสาสมัครชาวต่างชาติมาช่วยสร้างกุฏิใหม่ให้จำนวน
3 หลัง แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และชาวต่างชาติยังช่วยซ่อมแซมพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางลานสำนักสงฆ์ให้ด้วย"
เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์กล่าวต่อว่า อาตมามาอยู่ที่นี่ 20 ปีแล้ว
มาจำพรรษาที่นี่ยังเป็นที่สาธารณประโยชน์ และมีการสัมปทานบัตรทำเหมืองแร่
พ.ศ. 2529 เมื่อสัมปทานบัตรเหมืองแร่หมดอายุลง ขอที่ดินจากเจ้าของบริษัทที่หมดสัมปทานมาสร้างสำนักสงฆ์
เจ้าของถวายที่ดินให้จำนวน 170 ไร่ ชาวบ้านก็มาช่วยปักหลักเขตแดน มีผู้ใหญ่บ้านมาดูแลเป็นสักขีพยาน
การวัดเขตปักหลักในครั้งนั้น ไม่ได้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร จึงกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ที่พักสงฆ์แห่งนี้ไม่สามารถยื่นเรื่องขึ้นทะเบียนเป็นสำนักสงฆ์ได้"
พระครูสมุห์บรรจบกล่าวอีกว่า เรื่องสำคัญที่ไม่สามารถจดทะเบียนตั้งเป็นสำนักสงฆ์ได้
เพราะที่ดินมีราคาแพงมากและมีคนที่คิดจะฮุบที่ดิน เจ้าหน้าที่รัฐจำนวนหนึ่งอยู่ข้างคนที่คิดจะฮุบที่ดิน
ทำให้มีปัญหามาตลอดในการขอจดทะเบียน ออกเอกสารสิทธิให้ทำอย่างอื่นได้
แต่อนุญาตให้สร้างสำนักสงฆ์ไม่ได้ นับว่าแปลกดี อาตมาขอจดทะเบียนจัดตั้งสำนักสงฆ์มาหลายครั้งแล้ว
แต่ไม่สามารถทำได้ จากเดิมที่มีการลงหลักเขตมีที่ดิน 170 ไร่ ปัจจุบันเหลือที่ดินประมาณ
21 ไร่ เพราะมีคนมาอ้างสิทธิ และมีความพยายามให้อาตมาออกไปจากที่ดินผืนนี้
ที่ผ่านมามีเสียงปืนดังในสำนักสงฆ์หลายครั้งแล้ว และยังข่มขู่มาตลอด
ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่อาตมาคิดว่าทำงานเพื่อศาสนา อะไรจะเกิดก็เกิด
ที่มา : นสพ.ข่าวสด 20 มิ.ย.48
|