น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยรายงานผลการตรวจเยี่ยมวัด พระภิกษุ สามเณร และประชาชน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่ 6 จังหวัดที่ประสบภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อวันที่ 16-17 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า ตามมติที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ครั้งที่ 2/2548 เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ประชุม มส.มีมติเห็นชอบให้มีผู้แทนมหาเถรสมาคม (มส.) เดินทางไปเยี่ยมวัดและพระภิกษุ-สามเณร ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจังหวัดที่ประสบเหตุการณ์ธรณีพิบัติ โดยมอบให้ พระธรรมสิทธิเวที พระธรรมกิตติเมธี และ พระธรรมวรเมธี กรรมการ มส. เป็นผู้พิจารณาประสานพระเถระเดินทางไปเยี่ยมเยียนวัด พระภิกษุสามเณร รวมทั้งประชาชนที่ประสบภัยธรณีพิบัติ โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเป็นระยะๆ และให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดเจ้าหน้าที่ร่วมเดินทางไปเพื่อประสานงานในด้านต่างๆนั้น

              รายงานผลการตรวจเยี่ยม ระบุว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ. เวลา 07.00-11.00 น. พระธรรมกิตติเมธี ผู้แทนมหาเถรสมาคม พระมหาไพฑูรย์ รุจิมิตฺโต รองอธิการบดีฝ่ายเผยแผ่และวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พร้อมด้วยคณะ เดินทางไป จ.ยะลา ลงพื้นที่วัดราษฎร์บูรณะ (วัดช้างให้) จ.ปัตตานี เพื่อสักการะหลวงปู่ทวด และได้สนทนากับเจ้าอาวาสวัดราษฎร์บูรณะ เพื่อขอทราบปัญหาของวัด ทราบว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนถึงปัจจุบัน มีประชาชนมาสักการะหลวงปู่ทวดน้อยลง ทำให้รายได้จากการบริจาคของประชาชนน้อยลงไปด้วย

              ปัจจุบันวัดราษฎร์บูรณะ มีโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ มีนักเรียนประมาณ 500 คน ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเช่ารถยนต์รับ นักเรียนจากที่ต่างๆ วันละ 17 คัน ค่าเช่าวันละ 300 บาท นอกจากนี้ เป็นเพียงวัดแห่งเดียวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เปิดสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ใช้งบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายปีละประมาณ 1,000,000 บาท ดังนั้น เมื่อรายได้จากการบริจาคของประชาชนน้อยลง เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อการจัดการศึกษาของวัด ซึ่งพระธรรมกิตติเมธี ได้รับไว้พิจารณาต่อไป

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ที่ 9 มีนาคม 2548