เหะหะพาที : 6 เดือนหลังสึนามิ

             วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา เป็นวันครบ 6 เดือนของเหตุการณ์สึนามิ ในมหาสมุทรอินเดีย อันเกิดจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ใกล้ๆเกาะสุมาตรา

             ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดที่สำนักข่าวเอพีสรุปไว้ก็คือ 178,953 คน และสูญหายอีก 49,616 คน ซึ่งคาดว่าจะเสียชีวิตด้วยทั้งหมด

             มากที่สุดก็คือ อินโดนีเซีย ที่มีผู้เสียชีวิต 131,029 คน และสูญหาย 37,066 คน

             รองลงมาได้แก่ ศรีลังกา เสียชีวิต 31,229 คน สูญหาย 4,093 คน และอินเดีย เสียชีวิต 10,749 คน สูญหาย 5,640 คน

             ประเทศไทยของเราแจ้งตัวเลขไว้ที่ เสียชีวิต 5,395 คน และสูญหาย 2,817 คน อยู่ในอันดับที่ 4

             นอกนั้นก็มีสูญเสียชีวิตอีกเล็กๆน้อยๆ จำนวนร้อย จำนวนสิบ ในแต่ละประเทศ เช่น โซมาเลีย, เมียนมาร์, มัลดีฟส์, มาเลเซีย, แทนซาเนีย ฯลฯ

             นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สะเทือนใจที่สุดอีกครั้งหนึ่งของมวลมนุษยชาติ

             ไม่เพียงแต่สูญเสียชีวิตเท่านั้น ยังสูญเสียทรัพย์สินทั้งบ้านช่องที่อยู่อาศัย ตลอดจนที่ทำมาหากินอย่างมหาศาล

             รวมทั้งการสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจในอนาคตอย่างประมาณมิได้ โดยเฉพาะประเทศ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ดังเช่นประเทศไทยของเรา

             แม้ยอดผู้เสียชีวิตของจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันของเราจะอยู่ที่หลักพัน และรวมผู้สูญหายเข้าด้วยแล้ว จะอยู่ที่ 8 พันคนเศษโดยประมาณ

             เทียบกับประเทศที่สูญเสียเป็นหมื่น หรือแสนคนแล้ว ถือว่าน้อยกว่าของเขามากนัก

             แต่เนื่องจากผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ในประเทศไทย เป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศในยุโรป ซึ่งมีความอ่อนไหวและมีทางเลือกค่อนข้างสูง

             ทำให้เกิดความหวั่นวิตก เกิดความเสียใจ หรือสะเทือนขวัญสะเทือนใจจนผู้คน ไม่อยากเดินทางมาเที่ยวในบ้านเราอีกต่อไป

             แม้ทุกสิ่งทุกอย่างจะกลับเข้าที่พอสมควรแล้ว และเราก็ประชาสัมพันธ์ไปให้ทราบแล้วว่า ความสะดวก ความปลอดภัยรวมถึงความสวยงามในหลายๆจุดเกือบจะเหมือนเดิม

             แต่จำนวนนักท่องเที่ยวก็ยังคงน้อยลงอย่างน่าใจหาย

             นี่คือความสูญเสีย ทางเศรษฐกิจทั้งในปัจจุบันและโอกาสที่ควรจะได้รับในอนาคต ที่จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันกำลังเผชิญอยู่

             เสียงเรียกร้องให้ทางการเข้าช่วยเหลือจึงเกิดขึ้นแทบไม่เว้นแต่ละวัน และเสียงต่อว่าต่อขานว่าการช่วยยังไม่ถูกจุดก็ดังขึ้นทุกวัน

             ผมนั่งอยู่ตรงนี้ ได้แต่เห็นใจทุกๆฝ่าย เพราะจะว่าไปทางราชการก็พร้อมและเต็มใจ ช่วยอย่างเต็มที่

             แต่ก็นั่นแหละ อาจเป็นเจตนาดีที่ไม่ตรงเป้าเท่าไรนัก ดังที่มีเสียงบ่น

             ฉะนั้น ทางที่ดีที่สุดก็คือ การพูดการจา การหันหน้าเขาหากันแล้วหอบปัญหามาตีแผ่ แล้วช่วยกันหาทางออกอย่างแข็งขัน

             ในไม่ช้าทุกสิ่งทุกอย่างคงจะดีขึ้น

             นอกจากประเด็นในเรื่องท่องเที่ยวแล้ว อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือ ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่เกิดขึ้นแก่คนไทยแท้ๆ ที่ประกอบอาชีพอยู่ในจังหวัดเหล่านี้

             ปกติก็เป็นคนยากจน เป็นชาวประมง เป็นเกษตรกรรายได้น้อยกันอยู่แล้ว

             เมื่อเจอเคราะห์ร้ายต้องสูญเสียกำลังหลักของครอบครัวไป สูญเสียเครื่องมือทำมาหากินไป ก็ยิ่งทำให้เกิดความยากลำบากมากขึ้น

             เท่าที่ติดตามข่าวคราว เราให้ความช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายกลุ่มนี้ได้ดีพอสมควร

             แต่ก็อยากจะให้ช่วยต่อไป...ให้กำลังใจเขาต่อไป...อย่าด่วนลืม พี่น้องเหล่านี้ก็แล้วกันครับ รัฐบาลครับ.

"ซูม"

 

ที่มา :
        ปีที่ 56 ฉบับที่ 17330 วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2548
        http://www.thairath.co.th/thairath1/2548/column/hiha/jun/28_6_48.php

กลับไปหน้า Web วัดท่าไทร
ไป Web สำนักงานเจ้าคณะภาค ๑๖

ไป Web ศูนย์พัฒนาคุณธรรมภาคใต้
ไป Web วิทยุชุมชนตำบลท่าทองใหม่
ไป Web ชมรมวีอาร์ร้อยเกาะสุราษฎร์ธานี