สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
สรุปความเสียหายวัด พระภิกษุสงฆ์ จากคลื่นยักษ์ ‘สึนามิ’

****************

ภาพความเสียหายของที่พักสงฆ์ กมลา จ.ภูเก็ต

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ กองพุทธศาสนสถาน มี ผอ.นพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน นำทีมสำรวจพื้นที่ความเสียหายของวัด ที่พักสงฆ์ และจำนวนพระสงฆ์มรณภาพ สำรวจวัดที่ประชาชนใช้เป็นที่พักพิง วัดที่ให้การสงเคราะห์ศพ จากกรณีเกิดธรณีพิบัติคลื่นยักษ์ สึนามิ ถล่มใน 6 จังหวัดภาคใต้ จะเห็นได้ว่าบางวัดมีทั้งศพคนไทย คนต่างชาติ ต่างศาสนา อยู่ในบริเวณวัดเป็นจำนวนมาก เผาศพไม่ได้หยุดจึงทำให้ปล่องควันเมรุ วัดหลักแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ระเบิด ทางวัดต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีเผาด้วยยางรถยนต์ จากการลงพื้นของเจ้าหน้าที่ กองพุทธศาสนสถานได้พบความเสียหายพอจะสรุปในเบื้องต้น ได้ดังนี้

                จังหวัดระนอง ตรัง สตูล ไม่มีความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของพระภิกษุสงฆ์ เฉพาะในจังหวัดระนอง คณะสงฆ์ได้ให้การสงเคราะห์ต่อการณาปนกิจศพผู้เสียชีวิตให้การดูแลที่พักและอาหารต่อผู้ประสบภัย 2 แห่ง คือ

                วัดสถิตธรรมมาราม ตำบลกำพวน กิ่งอำเภอสุขสำราญ เป็นสถานที่ในการรับและณาปนกิจศพ เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิต

                วัดสุวรรณคีรีวิหาร ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมืองระนอง เป็นสถานที่ให้การดูแลที่พักและอาหารต่อผู้ประสบภัย

                จังหวัดกระบี่ ไม่มีความเสียหายต่อทรัพย์สินของวัด/สำนักสงฆ์ และที่พักสงฆ์ แต่คณะสงฆ์ในจังหวัดได้แจ้งให้วัดต่าง ๆ ให้การสงเคราะห์ต่อการณาปนกิจศพผู้เสียชีวิตโดยเฉพาะการช่วยรับศพจากจังหวัดพังงาซึ่งมีจำนวนมากมาดำเนินการ

                จังหวัดภูเก็ต มีรายงานความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของพระภิกษุสงฆ์และที่พักสงฆ์ดังนี้

                ที่พักสงฆ์กมลา ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ จ.ภูเก็ต (สังกัดวัดอนุภาษกฤษฎาราม) มีพระสงฆ์มรณภาพ 3 รูป ได้แก่ พระเต็กก้วน ปสนฺนจิตฺโต อายุ 67 ปี พระนพ เขมจาโร อายุ 74 ปี พระวันทา อาภากโรอายุ 68 ปี พระสงฆ์ที่ได้รับบาดเจ็บ มี 2 รูป ได้แก่ พระพูนสวัสดิ์ ฐานวุฑฺโฒ รักษาอาการอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต พระพิทักษ์ กะตะภิญโญ รักษาอาการอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ส่วนทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด 7,209,900 บาท

                ที่พักสงฆ์แหลมพระ ตำบลป่าตอง อำเภอกระทู้ ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่มีความเสียหายของทรัพย์สินทั้งหมด 885,000 บาท

                จังหวัดพังงา มีรายงานความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของพระภิกษุ วัด และที่พักสงฆ์ ดังนี้

                ที่พักสงฆ์เจริญธรรม ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จ.พังงา มีพระภิกษุมรณภาพ 2 รูป คือ พระปัญญา ธีรปญโญ และพระสุวัฒน์ ทีปโก

                ที่พักสงฆ์ทุ่งหว้า ตำบลคึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา อาคารเสนาสนะเสียหาย และบริเวณวัดเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง

                ที่พักสงฆ์นอกนา ตำบลเกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา อาคารเสนาสนะเสียหาย และบริเวณวัดเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง

                ที่พักสงฆ์ป่าโพธิวาส ตำบลคึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา อาคารเสนาสนะ เสียหาย และบริเวณวัดเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง

                ที่พักสงฆ์ทุ่งตึก ตำบลเกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีพระภิกษุ 5 รูป ทุกรูปปลอดภัย ส่วนอาคารเสนาสนะและบริเวณวัดที่ได้รับความเสียหาย

                วัดพนัสนิคม ตำบลคึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีพระภิกษุจำนวน 4 รูป ทุกรูปปลอดภัย ส่วนอาคารเสนาสนะและบริเวณวัดที่ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 3,460,000 บาท

                ที่พักสงฆ์ท่าไทร ตำบลนาเตย อ.ท้ายเหมือง อาคารเสนาสนะและบริเวณวัดที่ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 142,000 บาท


พระวิจิตรธรรมนิเทศ รองเจ้าคณะจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย
นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ผอ.สำนักพระพุทธฯ เดินทางไปให้ความช่วยเหลือพระภิกษุสงฆ์ และให้กำลังใจคณะเจ้าหน้าที่ พศ.จังหวัด ที่ได้รับความเดือดร้อน

                นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า สิ่งที่คณะกรรมการมหาเถรสมาคมได้พูดถึงตอนนี้ก็คือ เรื่องที่สังคมโดยทั่วไปยังมีการพูดถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับวัดกับพระสงฆ์น้อยมาก ซึ่งอาจจะหมายความว่าสังคมอาจจะยังไม่ทราบว่า พระสงฆ์กับวัดได้รับความเสียหายมากน้อยเพียงใด ทั้งที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากคลื่นยักษ์ "สึนามิ" วัดได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ก็คือ มีศพมากมาย เข้าไปอยู่ในวัด พระท่านมีความลำบากมาก มีความเสียสละมาก จึงทำให้คณะกรรมการมหาเถรสมาคมรู้สึกว่า ผู้คนโดยทั่วไปยังพูดถึงเรื่องความเดือดร้อนของพระสงฆ์น้อยมาก แต่กรรมการมหาเถรสมาคมได้มีมติ ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งโดยที่ทางสำนักงานพระพุทธไม่ได้เป็นผู้เสนอ ประกอบไปด้วย พระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นประธาน และมีพระเถระผู้ใหญ่อีกหลายรูป รวมทั้งสำนักพระพุทธฯเป็นเลขา เพื่อพิจารณากันว่าเราจะฟื้นฟูกิจการคณะสงฆ์ใน 6 จังหวัดภาคใต้ยังไง ผมได้เสนอเงินที่จะใช้ในการช่วยเหลือพระสงฆ์กับทางรัฐบาล ประมาณการตัวเลขในการฟื้นฟูบูรณะวัด สำนักสงฆ์ เตาเผาศพต่างๆ แล้วก็เงินชดเชยให้กับพระที่มรณภาพเสนอวงเงินไปประมาณ 46 ล้านบาท เพื่อใช้ในส่วนของกิจการคณะสงฆ์ที่ได้รับความเดือดร้อน

                แผนฟื้นฟูจะมีการประชุมหารือระหว่างคณะสงฆ์ กับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยกำหนดแผนและรูปแบบไว้ ซึ่งยึดกรอบและหลักการ ดังนี้

                ประการแรก ขณะนี้ได้ทำการสำรวจข้อมูลและรายละเอียดความเสียหายของทรัพย์สินของวัดสำนักสงฆ์และที่พักสงฆ์ เพื่อจัดสรรงบประมาณในการบูรณะปฏิสังขรณ์ ทั้งนี้จะต้องมีการพิจารณาตำแหน่งที่ตั้งของอาคารเสนาสนะที่เหมาะสมใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบการใช้พื้นที่ตามที่ทางราชการกำหนด

                ประการที่สอง จัดกลุ่มตำแหน่งพื้นที่เป้าหมายในชุมชน เพื่อการตรวจเยี่ยมปลอบขวัญและสร้างกำลังใจโดยคณะสงฆ์ ทั้งนี้จะมีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างคณะสงฆ์ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในการกำหนดแผน และรูปแบบการดำเนินการ

                ประการที่สาม การบริหารเงินบริจาคที่ได้รับผ่านคณะสงฆ์ จะมีการตั้งคณะกรรมการในแต่ละจังหวัด โดยมีพระเทพปริยัติเมธี เจ้าคณะภาคที่ 17 เป็นที่ปรึกษา เจ้าคณะจังหวัดเป็นประธาน เจ้าคณะอำเภอต่างๆ เป็นกรรมการ ผู้แทนส่วนราชการ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อควบคุมดูแลการเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปตามระเบียบ และหลักเกณฑ์ทั้งนี้จะรวมถึงการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนโดยไม่จำแนกศาสนาด้วย

ที่มา: นสพ.ผู้จัดการ 12 ม.ค.48

กลับไปหน้า Web วัดท่าไทร
ไป Web สำนักงานเจ้าคณะภาค ๑๖

ไป Web ศูนย์พัฒนาคุณธรรมภาคใต้
ไป Web วิทยุชุมชนตำบลท่าทองใหม่
ไป Web ชมรมวีอาร์ร้อยเกาะสุราษฎร์ธานี