ขอบคุณ… ขอโทษ
*********
"ขอบคุณ" เป็นคำพูดที่เราจะใช้เมื่อมีผู้มาแสดงน้ำใจกับเรา ไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือการกระทำ
คำ "ขอบคุณ" ดูจะถ่ายทอดความรู้สึกซาบซึ้งใจที่จะบอกกับคน ๆ นั้นได้เป็นอย่างดี
ในขณะที่คำ "ขอโทษ" ก็จะบอกถึงความรู้สึกเสียใจ รู้สึกผิด สำนึกผิด เมื่อมีการกระทำล่วงเกิน
ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดขึ้น
คำขอบคุณ และขอโทษ เป็นวัฒนธรรมพื้นฐานของการอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าในสังคมครอบครัว สังคม
การทำงาน และสังคมวงกว้าง
คำพูดสองคำสั้น ๆ นี้มีอานุภาพยิ่งใหญ่อย่างที่หลาย ๆ คนอาจจะนึกไม่ถึง ทำให้ความขัดแย้ง
ความเข้าใจผิด ลดความรุนแรงหรือหายไปได้ ทำให้ความสัมพันธ์และมิตรภาพระหว่างผู้คนแน่นแฟ้น
ยิ่งขึ้น
แต่น่าใจหายที่ถ้อยคำดี ๆ สองคำนี้กำลังจะหายไปจากริมฝีปากของคนจำนวนมากในสังคม
ปัจจุบัน บ่อยครั้งที่เห็นผู้ใหญ่ลุกให้เด็กนักเรียนตัวเล็ก ๆ นั่งบนรถเมล์ น้อยครั้งที่จะเห็นเด็กยกมือ ไหว้ หรือกล่าวคำ "ขอบคุณ" ทั้ง ๆ ที่อยู่ในวัยที่พ่อแม่จะต้องสอน โรงเรียนต้องสอน ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ
"เขาลุกให้นั่ง ฉันก็นั่ง" เห็นแล้วเศร้าใจ ที่เด็กน้อยในวันนี้ทีผู้จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า

หรือการเหยียบเท้า กระทบกระแทกล่วงเกินร่างกายซึ่งกันและกันบนรถเมล์ นับวันผู้คนจะรู้สึก
ว่าเป็นเรื่องธรรมดา การเอ่ยปากพูด "ขอโทษ" ดูจะเป็นสิ่งที่น่าอายที่ไม่มีใครอยากทำ (ก็ยุคนี้เขาว่า
คนมักเห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นชั่วเป็นดี เห็นถูกเป็นผิด เห็นผิดเป็นถูก ทั้ง ๆ ที่ทำแล้วเป็นตัวอย่าง
ที่ดีแก่ผู้พบเห็น ละเป็นการบ่งบอกว่าผู้เอ่ยคำนี้เป็นเป็นคนที่ดี่มีการศึกษาอบรมมาเป็นอย่างดี และเป็น
เป็นคนดีของสังคม)
การพูดคำว่า "ขอบคุณ" และ "ขอโทษ" ไม่เฉพาะว่าเด็กต้องพูดกับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความ
รู้สึกที่ควรจะมีอยู่ในใจของคนเราทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย เมื่อไหร่ที่พ่อแม่ทำอะไรไม่เหมาะสมต่อลูก ซึ่ง
พ่อแม่เองก็ควรจะพูด "ขอโทษลูก" ได้เช่นกัน หรือแม้ว่าเราอาจจะไม่ใช่เป็นฝ่ายผิด แต่ถ้า "ขอโทษ"
แล้วทุกสิ่งทุกอย่างดีขึ้น เป็นผลดีกับทุกฝ่าย ก็เป็นสิ่งที่น่าทำเช่นกัน
*********************************************************************************
ที่มา.-จากนิตยสาร "หมอชาวบ้าน" ฉบับที่ ๒๕๔

กลับไปหน้าแรก