สิกขา - สิคาลมาตา
สิกขา การศึกษา,
การสำเหนียก, ข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อปฏิบัติสำหรับฝึกอบรม มี ๓ อย่างคือ ๑.
อธิสีลสิกขา ฝึกอบรม
ในเรื่องศีล ๒. อธิจิตตสิกขา ฝึกอบรมในเรื่องจิต เรียกง่ายๆ ว่าสมาธิ
๓. อธิปัญญาสิกขา ฝึกอบรมในเรื่องปัญญา รวม
เรียกว่า ไตรสิกขา
สิกขาคารวตา
ดู คารวะ
สิกขานุตตริยะ
การศึกษาอันเยี่ยม ได้แก่ การฝึกอบรมในอธิศีล อธิจิตต์ และอธิปัญญา (ข้อ ๔
ในอนุตตริยะ ๖)
สิกขาบท ข้อที่ต้องศึกษา,
ข้อศีล, ข้อวินัย, บทบัญญัติข้อหนึ่งๆ ในพระวินัยที่ภิกษุพึงศึกษาปฏิบัติ,
ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล
๑๐ ศีล ๒๒๗ ศีล ๓๑๑ แต่ละข้อๆ เรียกว่าสิกขาบท เพราะเป็นข้อที่จะต้องศึกษา
หรือเป็นบทฝึกฝนอบรมตนของ
สาธุชน อุบาสก อุบาสิกา สามเณร สามเณรี ภิกษุ และภิกษุณี ตามลำดับ
สิกขาสมมติ ความตกลงยินยอมของภิกษุณีสงฆ์ที่จะให้สามเณรี
ผู้มีอายุ ๑๘ ปีเต็มแล้ว เริ่มรักษาสิกขาบท ๖ ประการ
ตลอดเวลา ๒ ปี ก่อนที่จะได้อุปสมบท, เมื่อภิกษุณีสงฆ์ให้สิกขาสมมติแล้ว สามเณรีนั้นได้ชื่อว่าเป็นสิกขามานา
สิขี พระนามของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอดีต,
ดู พระพุทธเจ้า ๗
สิคาลมาตา
พระมหาสาวิกาองค์หนึ่งเป็นธิดาเศรษฐีในพระนครราชคฤห์เจริญวัยแล้ว แต่งงาน
มีบุตรคนหนึ่งชื่อ
สิงคาลกุมาร วันหนึ่งได้ฟังธรรมีกถาของพระศาสดา มีความเลื่อมใส (คัมภีร์อปทานว่า
ได้ฟังสิงคาลกสูตรที่พระ
พุทธเจ้าทรงแสดงแก่บุตรของนาง ซึ่งว่าด้วยเรื่องอบายมุข มิตรแท้ มิตรเทียม
ทิศ ๖ เป็นต้น และได้บรรลุโสดาปัตติ
ผล) ขอบวชเป็นภิกษุณี ต่อมาได้ไปฟังธรรมเทศนาที่พระศาสดาทรงแสดง นางคอยตั้งตาดูพระพุทธสิริสมบัติด้วย
ศรัทธาอันแรงกล้า พระพุทธองค์ทรงทราบดังนั้น ก็ทรงแสดงธรรมให้เหมาะกับอัธยาศัยของนาง
นางส่งใจไปตาม
กระแสพระธรรมเทศนาก็ได้บรรลุพระอรหัต ได้รับยกย่องว่า เป็นเอตทัคคะในทางศรัทธาธิมุต,
สิคาลกมาตา หรือ
สิงคาลมาตาก็เรียก