สัตวนิกาย - สัทธิวิหาริก, สัทธิงวิหาริก
สัตวนิกาย หมู่สัตว์
สัตวโลก โลกคือหมู่สัตว์
สัทธรรม ธรรมที่ดี,
ธรรมที่แท้, ธรรมของคนดี, ธรรมของสัตบุรุษมี ๓ อย่าง คือ ๑. ปริยัติสัทธรรม
สัทธรรมคือสิ่งที่
พึงเล่าเรียน ได้แก่ พุทธพจน์ ๒. ปฏิบัติสัทธรรม สัทธรรมคือสิ่งที่ถึงปฏิบัติได้แก่ไตรสิกขา
๓. ปฏิเวธสัทธรรม
สัทธรรมคือผลที่ถึงบรรลุ ได้แก่ มรรค ผล และนิพพาน, สัทธรรม ๗ คือ
๑. ศรัทธา ๒. หิริ ๓. โอตตัปปะ ๔. พาหุ-
สัจจะ ๕. วิริยารัมภะ ๖. สติ ๗. ปัญญา
สัทธรรมปฏิรูป
สัทธรรมปลอม, สัทธรรมเทียม
สัทธรรมมัสสวนะ
ฟังสัทธรรม, ฟังคำสั่งสอนของสัตบุรุษ, ฟังคำสั่งสอนของท่านที่ประพฤติชอบด้วยกายวาจาใจ,
สดับเล่าเรียนอ่านคำสอนเรื่องราวที่แสดงหลักความจริงความดีงาม (ข้อ ๒ ในวุฑฒิ
๔)
สัทธัมมปกาสินี
ชื่อคัมภีร์อรรถกถาอธิบายความในปฏิสัมภิทามรรค แห่งพระสุตตันตปิฎก พระมหานามรจนาใน
เกาะลังกา ประมาณ พ.ศ. ๑๐๖๐
สัทธา ความเชื่อ;
ในทางธรรม หมายถึงเชื่อสิ่งที่ควรเชื่อ, ความเชื่อที่ประกอบด้วยเหตุผล, ความมั่นใจในความจริง
ความดี สิ่งดีงาม และในการทำความดีไม่ลู่ไหลตื่นตูมไปตามลักษณะอาการภายนอก
ท่านแสดง สืบ ๆ กันมาว่ามี ๔
อย่างคือ ๑. กัมมสัทธา เชื่อกรรม ๒. วิปากสัทธา เชื่อผลของกรรม
๓. กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อว่าสัตว์มีกรรมเป็นของ
ตัว ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ๔. ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อปัญญาตรัสรู้ของพระตถาคต;
เขียนอย่างสันสกฤตเป็น ศรัทธา
สัทธาจริต พื้นนิสัยหนักในสัทธา
เชื่อง่าย พึงแก้ด้วยปสาทนียกถา คือ ถ้อยคำที่นำให้เกิดความเลื่อมใสในทางที่ถูกที่
ควร และด้วยความเชื่อที่มีเหตุผล (ข้อ ๔ ในจริต ๖)
สัทธานุสารี ผู้เล่นไปตามศรัทธา,
ผู้เล่นตามไปด้วยศรัทธา, พระอริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติมรรค ที่มีสัทธิน-
ทรีย์แรงกล้า (ถ้าบรรลุผล กลายเป็น สัทธาวิมุต) ดู อริยบุคคล ๗
สัทธาวิมุต
ผู้หลุดพ้นด้วยศรัทธา, พระอริยบุคคล ตั้งแต่โสดาบันขึ้นไปจนถึงผู้ตั้งอยู่ในอรหัตตมรรคที่มีสัทธิน-
ทรีย์แรงกล้า (ถ้าบรรลุอรหัตตผลกลายเป็น ปัญญาวิมุต) ดู อริยบุคคล ๗
สัทธาสัมปทา
ถึงพร้อมด้วยศรัทธาคือเชื่อสิ่งที่ควรเชื่อ เช่นเชื่อว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
เป็นต้น (ข้อ ๑ ในสัมปรายิ-
กัตถฯ ๔)
สัทธิวิหาริก, สัทธิงวิหาริก
ศิษย์, ผู้อยู่ด้วย เป็นคำเรียกผู้ที่ได้รับอุปสมบท ถ้าอุปสมบทต่อพระอุปัชฌายะองค์ใด
ก็
เป็นสัทธิวิหาริกของพระอุปัชฌายะองค์นั้น