สังคีติกถา - สังฆการี
สังคีติกถา
ถ้อยคำที่กล่าวถึงเรื่องสังคายนา,แถลงความเรื่องสังคายนา
สังคีติปริยาย
บรรยายเรื่องการสังคายนา,การเล่าเรื่องการสังคายนา
สังฆกรรม งานของสงฆ์,กรรมที่สงฆ์พึงทำ,กิจที่พึงทำโดยที่ประชุมสงฆ์มี
๔ คือ ๑. อปโลกนกรรม กรรมที่ทำเพียง
ด้วยบอกกันในที่ประชุมสงฆ์ ไม่ต้องตั้งญัตติและไม่ต้องสวดอนุสาวนา เช่น แจ้งการลงพรหมทัณฑ์แก่ภิกษุ
๒. ญัตติ-
กรรม กรรมที่ทำเพียงตั้งญัตติไม่ต้องสวดอนุสาวนา เช่น อุโบสถและปวารณา
๓. ญัตติทุติยกรรรม กรรมที่ทำด้วยตั้ง
ญัตติแล้วสวดอนุสาวนาหนหนึ่ง เช่น สมมติสีมา ให้ผ้ากฐิน ๔. ญัตติจตุตถกรรม
กรรมที่ทำด้วยตั้งญัตติแล้วสวดอนุ-
สาวนา ๓ หน เช่น อุปสมบท ให้ปริวาส ให้มานัต
สังฆการี เจ้าหน้าที่ผู้ทำการสงฆ์,เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับสงฆ์ในงานหลวง,เจ้าหน้าที่ผู้เป็นพนักงานในการพิธี
สงฆ์ มีมาแต่โบราณสมัยอยุธยาสังกัดกรมสังฆการี ซึ่งรวมอยู่ด้วยกันกับกรมธรรมการเรียกรวมว่ากรมธรรมการสังฆ-
การี เดิมเรียกว่า สังกะรี หรือสังการี เปลี่ยนเรียกสังฆการีในรัชกาลที่ ๔
ต่อมาเมื่อตั้งกระทรวงธรรมการใน พ.ศ.
๒๔๓๒ กรมธรรมการสังฆการีเป็นกรมหนึ่งในสังกัดของกระทรวงนั้น จนถึง พ.ศ. ๒๔๕๔
กรมสังฆการีจึงแยกเป็น
กรมต่างหากกันกับกรมธรรมการ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๗๖ กรมสังฆการีถูกยุบลงเป็นกองสังกัดในกรมธรรมการ
กระทรวงศึกษาธิการ ต่อมาอีกใน พ.ศ. ๒๔๘๔ กรมธรรมการเปลี่ยนชื่อเป็นกรมการศาสนา
และในคราวท้ายสุด
พ.ศ.๒๕๑๕ กองสังฆการีได้ถูกยุบเลิกไป และมีกองศาสนูปถัมภ์ขึ้นมาแทน ปัจจุบันจึงไม่มีสังฆการี;บางสมัยสังฆ
การีมีอำนาจหน้าที่กว้างขวาง มิใช่เป็นเพียงเจ้าพนักงานในราชพิธีเท่านั้น
แต่ทำหน้าที่ชำระอธิกรณ์พิจารณาโทษแก่
พระสงฆ์ผู้ล่วงละเมิดสิกขาบทประพฤติผิดธรรมวินัยด้วย