สังขตธรรม - สังขาร ๒
สังขตธรรม
ธรรมที่ถูกปัจจัยปรุงแต่งขึ้น ตรงกับสังขารในคำว่า สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง
ดังนี้เป็นต้น; ตรงข้ามกับ
อสังขตธรรม
สังขตลักษณะ ลักษณะแห่งสังขตธรรม,
ลักษณะของปรุงแต่ง มี ๓ อย่าง ๑. ความเกิดขึ้น ปรากฏ ๒. ความดับสลาย
ปรากฏ ๓. เมื่อตั้งอยู่ ความแปร ปรากฏ
สังขาร 1. สิ่งที่ถูกปัจจัยปรุงแต่ง,
สิ่งที่เกิดจากเหตุปัจจัย เป็นรูปธรรมก็ตาม นามธรรมก็ตาม ได้แก่ขันธ์ ๕ ทั้งหมด,
ตรงกับคำว่า สังขตะหรือสังขตธรรม ได้ในคำว่า สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง
ดังนี้เป็นต้น 2. สภาพที่ปรุงแต่งใจ
ให้ดีหรือชั่ว, ธรรมมีเจตนาเป็นประธานที่ปรุงแต่งความคิด การพูด การกระทำ
มีทั้งที่ดีเป็นกุศล ที่ชั่วเป็นอกุศล ที่
กลางๆ เป็นอัพยากฤตได้แก่เจตสิก ๕๐ อย่าง (คือเจตสิกทั้งปวงเว้นเวทนาและสัญญา)
เป็นนามธรรมอย่างเดียว, ตรง
กับสังขารขันธ์ ในขันธ์ ๕ ได้ในคำว่ารูปไม่เที่ยง เวทนาไม่เที่ยง สัญญาไม่เที่ยง
สังขารไม่เที่ยง วิญญาณไม่เที่ยง ดังนี้
เป็นต้น; อธิบายอีกปริยายหนึ่งสังขารตามความหมายนี้ยกเอาเจตนาขึ้นเป็นตัวนำหน้า
ได้แก่สัญเจตนา คือ เจตนาที่
แต่งกรรมหรือปรุงแต่งการกระทำ มี ๓ อย่าง คือ ๑. กายสังขาร สภาพที่ปรุงแต่งการกระทำทางกาย
คือ กายสัญเจตนา
๒. วจีสังขาร สภาพที่ปรุงแต่งการกระทำทางวาจา คือ วจีสัญเจตนา ๓.
จิตตสังขาร หรือ มโนสังขาร สภาพที่ปรุงแต่ง
การกระทำทางใจ คือ มโนสัญเจตนา 3. สภาพที่ปรุงแต่งชีวิตมี ๓ คือ ๑.
กายสังขาร สภาพที่ปรุงแต่งกาย ได้แก่
อัสสาสะปัสสาสะ คือลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ๒. วจีสังขาร สภาพที่ปรุงแต่งวาจา
ได้แก่วิตกและวิจาร ๓. จิตต-
สังขาร สภาพที่ปรุงแต่งใจ ได้แก่สัญญาและเวทนา
สังขาร ๒ คือ ๑.
อุปาทินนกสังขาร สังขารที่กรรมครอบครอง ๒. อนุปาทินนกสังขาร สังขารที่กรรมไม่ครอบครอง,
โดยปริยายแปลว่า สังขารที่มีใจครอง และสังขารที่ไม่มีใจครอง