สมเพช - สมาทปนา
สมเพช ในภาษาไทย
ใช้ในความหมายว่า สลดใจ ทำให้เกิดความสงสารแต่ตามหลักภาษาตรงกับ สังเวช
สมโพธิ การตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
สมโภค การกินร่วม;
ดู กินร่วม
สมโภช งานฉลองในพิธีมงคลเพื่อความรื่นเริงยินดี
สมภพ การเกิด
สมมติ การรู้ร่วมกัน,
การตกลงกัน, การมีมติร่วมกัน หรือยอมรับร่วมกัน; การที่สงฆ์ ประชุมกันตกลงมอบหมายหรือ
แต่งตั้งภิกษุให้ทำกิจหรือเป็นเจ้าหน้าที่ในเรื่องอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น
สมมติภิกษุเป็นผู้ให้โอวาทภิกษุณี สมมติภิกษุ
เป็นภัตตุเทศก์ เป็นต้น; ในภาษาไทย ใช้ในความหมายว่า ตกลงกันว่า ต่างว่า
สมมติเทพ เทวดาโดยสมมติ
คือโดยความตกลงหรือยอมรับร่วมกันของมนุษย์ ได้แก่พระราชา พระราชเทวี พระราช
กุมาร (ข้อ ๑ ในเทพ ๓)
สมมติสัจจะ จริงโดยสมมติ
คือ โดยความตกลงหมายรู้ร่วมกันของมนุษย์ เช่น นาย ก. นาย ข. ช้าง ม้า มด โต๊ะ
หนังสือ พ่อ แม่ ลูก เพื่อน เป็นต้น ซึ่งเมือกล่าวตามสภาวะ หรือโดยปรมัตถ์แล้ว
ก็เป็นเพียงสังขาร หรือนามรูป หรือ
ขันธ์ ๕ เท่านั้น; คู่กับปรมัตถสัจจะ
สมรภูมิ ที่ร่วมตาย,
สนามรบ
สมสีสี บุคคลผู้สิ้นอาสวะพร้อมกับสิ้นชีวิต
คือ บรรลุอรหัตตผล ในขณะเดียวกับที่สิ้นชีวิต; นี้เป็นความหมายหลัก
ตามพระบาลี แต่ในมโนรถปูรณี อรรถกถาแห่งอังคุตตรนิกาย ให้ความหมายสมสีสี ว่าเป็นการสิ้นอาสวะพร้อมกับ
สิ้นอย่างอื่นอันใดอันหนึ่งใน ๔ อย่างและแสดงสมสีสีไว้ ๔ ประเภทคือ ผู้สิ้นอาสวะพร้อมกับหายโรค
เรียกว่าโรค
สมสีสี ผู้สิ้นอาสวะพร้อมกับที่เวทนา ซึ่งกำลังเสวยอยู่สงบระงับไปเรียกว่า
เวทนาสมสีสี ผู้สิ้นอาสวะพร้อมกับการ
สิ้นสุดของอิริยาบถอันใดอันหนึ่ง เรียกว่า อิริยาบถสมสีสี ผู้สิ้นอาสวะพร้อมกับสิ้นชีวิต
เรียกว่า ชีวิตสมสีสี สมสีสี
ในความหมายหลักข้างต้น ก็คือ ชีวิตสมสีสี; อย่างไรก็ดีในอรรถกถาแห่งปุคคลปัญญัติ
เป็นต้น แสดงสมสีสีไว้ ๓
ประเภท และอธิบายต่างออกไปบ้าง ไม่ขอนำมาแสดงในที่นี้ เพราะจะทำให้ฟั่นเฝือ
สมันตจักขุ จักษุรอบคอบ,
ตาเห็นรอบ ได้แก่พระสัพพัญญุตญาณ อันหยั่งรู้ธรรมทุกประการ เป็นคุณสมบัติพิเศษของ
พระพุทธเจ้า (ข้อ ๕ ในจักขุ ๕)
สมันตปาสาทิกา
ชื่อคัมภีร์อรรถกถาอธิบายความในพระวินัยปิฎก พระพุทธโฆษาจารย์เรียบเรียงขึ้น
เมื่อ พ.ศ. ใกล้
จะถึง ๑๐๐๐ โดยปรึกษาอรรถกถาภาษาสิงหฬที่มีอยู่ก่อน ชื่อมหาปัจจริย และกุรุนที
สมัย คราว, เวลา;
ลัทธิ; การประชุม; การตรัสรู้
สมาคม การประชุม,
การเข้าร่วมพวก ร่วมคณะ
สมาจาร ความประพฤติที่ดี;
มักใช้ในความหมายที่เป็นกลางๆ ว่า ความประพฤติ โดยมีคำอื่นประกอบขยายความ
เช่น กายสมาจาร วจีสมาจาร ปาปสมาจาร เป็นต้น
สมาทปนา การให้สมาทาน
หรือชวนให้ปฏิบัติคือ อธิบาย ให้เห็นว่าเป็นความจริง ดีจริง จนใจยอมรับที่จะนำไป
ปฏิบัติ; เป็นลักษณะอย่างหนึ่งของการสอนที่ดี (ข้อก่อนคือสันทัสสนา, ข้อต่อไปคือ
สมุตเตชนา)