ปาริฉัตตก์ - ปาริสุทธิอุโบสถ
ปาริฉัตตก์ "ต้นทองหลาง" ,ชื่อต้นไม้ประจำสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
อยู่ในส่วนนันทวันของพระอินทร์; ปาริฉัตร หรือ ปาริชาต
ปาริเลยยกะ ชื่อแดนบ้านแห่งหนึ่งใกล้เมืองโกส้มพีที่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าไปอาศัยอยู่ในป่ารักขิตวันด้วยทรงปลีกพระองค์
จากพระสงฆ์ผู้แตกกันในกรุงโกสัมพี; ช้างที่ปฏิบัติพระพุทธเจ้าที่ป่านั้น ก็ชื่อ
ปาริเลยยกะ; เราเรียกกันในภาษาไทยว่า ปาเล
ไลยก์ก็มีป่าเลไลยก์ ก็มี ควรเขียน ปาริไลยก์ หรือปาเรไลยก์
ปาริวาสิกขันธก ชื่อขันธกะที่
๒ แห่งจุลวรรค ในพระวินัยปิฎก ว่าด้วยเรื่องภิกษุอยู่ปริวาส
ปาริวาสิกภิกษุ
ภิกษุผู้อยู่ปริวาส ดู ปริวาส
ปาริสุทธิ
ความบริสุทธิ์ของภิกษุ; เป็นธรรมเนียมว่า ถ้ามีภิกษุอาพาธอยู่ในสีมาเดียวกัน
เมื่อถึงวันอุโบสถไม่สามารถไปร่วม
ประชุมได้ ภิกษุผู้อาพาธต้องมอบปาริสุทธิแก่ภิกษุรูปหนึ่งมาแจ้งแก่สงฆ์ คือให้นำความมาแจ้งแก่สงฆ์ว่าตนมีความบริสุทธ์
ทางพระวินัยไม่มีอาบัติติดค้าง หรือในวันอุโบสถ มีภิกษุอยู่เพียงสองหรือสามรูป
(คือเป็นเพียงคณะ) ไม่ครบองค์สงฆ์ที่จะ
สวดปาฏิโมกข์ได้ ก็ให้ภิกษุสองหรือสามรูปนั้นบอกความบริสุทธิ์แก่กันแทนการสวดปาฏิโมกข์
ปาริสุทธิศีล ศีลเป็นเครื่องทำให้บริสุทธิ์,
ศีลเป็นเหตุให้บริสุทธิ์ หรือความประพฤติบริสุทธิ์ที่จัดเป็นศีลมี ๔ อย่างคือ
๑. ปาฏิ
โมกขสังวรศีล สำรวมในพระปาฏิโมกข์ ๒. อินทรียสังวรศีล สำรวมอินทรีย์
๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ๓. อาชีวปาริสุทธ
ศีล เลี้ยงชีพโดยทางที่ชอบธรรม ๔. ปัจจัยสันนิสิตศีล พิจารณาก่อนจึงบริโภคปัจจัย
๔ คือ จีวรบิณฑบาต เสนาสนะ และเภสัช
ปาริสุทธิอุโบสถ
อุโบสถที่ภิกษุทำปาริสุทธิ คือแจ้งแต่ความบริสุทธิ์ของกันและกัน ไม่ต้องสวดปาฏิโมกข์ปาริสุทธิอุโบสถนี้
กระทำเมื่อมีภิกษุปาริสุทธิอุโบสถนี้ กระทำเมื่อมีภิกษุอยู่ในวันเพียงเป็นคณะ
คือ ๒-๓ รูปไม่ครบองค์สงฆ์ ๔ รูป
ถ้ามีภิกษุ ๓ รูปพึงประชุมกันในโรงอุโบสถแล้ว รูปหนึ่งตั้งญัตติดังนี้ :
สุณนฺตุ เม ภนฺเต อายสฺมนฺตา, อชฺชุโปสโถ ปณฺณรโส ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ,
มยํ อญฺมญฺยํ ปาริสุทฺธิ อุโปสถํ กเรยฺยาม.
แปลว่า : ท่านทั้งหลาย อุโบสถวันนี้ที่ ๑๕ ถ้าความพร้อมพรั่งของท่านถึงที่แล้ว
เราทั้งหลายถึงทำปาริสุทธิอุโบสถด้วยกัน
(ถ้ารูปที่ตั้งญัตติแก่กว่าเพื่อนว่า อาวุโส แทน ภนเต,ฺ ถ้าเป็นวัน
๑๔ ค่ำ ว่า จาตุทฺโธ อหํ อาวุโส, ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถ (๓
หน)
แปลว่า : ฉันบริสุทธิ์แล้วเธอ ขอเธอทั้งหลายจงจำฉันว่าผู้บริสุทธิ์แล้ว อีก
๒ รูปพึงทำอย่างเดียวกันนั้นตามลำดับพรรษาคำ
บอกเปลี่ยนเฉพาะ อาวุโส เป็น ภนฺเต แปลว่า ผมบริสุทธิ์แล้วขอรับ
ขอท่านทั้งหลายจงจำผมว่าผู้บริสุทธิ์แล้ว
ถ้ามี ๒ รูป ไม่ต้องตั้งญัตติพึงบอกปาริสุทธิแก่กัน ผู้แก่ว่า : ปริสุทฺโธ
อหํ อาวุโส, ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถ (๓หน) ดู
อุโบสถ