อโหสิกรรม - อัคคัญญสูตร
อโหสิกรรม
กรรมเลิกให้ผล ไม่มีผลอีกได้แก่กรรมทั้งที่เป็นกุศลและอกุศลที่เลิกให้ผล เหมือนพืชที่หมดยาง
เพาะ
ปลูกไม่ขึ้นอีก (ข้อ ๔ ในกรรม ๑๒)
อักโกสวัตถุ เรื่องสำหรับด่า
มี ๑๐ อย่าง คือ ๑. ชาติ ได้แก่ชั้นหรือกำเนิดของคน ๒. ชื่อ ๓. โคตร คือตระกูลหรือแซ่
๔.การงาน ๕. ศิลปะ ๖. โรค ๗. รูปพรรณสัณฐาน ๘. กิเลส ๙. อาบัติ ๑๐. คำสบประมาทอย่างอื่นๆ
อักขระ ตัวหนังสือ,
วิชาหนังสือ, คำ, เสียง, สระ และพยัญชนะ
อักขรวิธี ตำราว่าด้วยวิธีเขียนและอ่านหนังสือให้ถูกต้อง
อักษร ตัวหนังสือ
อัคคสาวก ดู อัครสาวก
อัคคัญญสูตร
ชื่อสูตรที่ ๔ แห่งทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค พระสุตตันตปิฎก ทรงแสดงแก่สามเณรวาเสฏฐะ
และ
สามเณรภารัทวาชะ ผู้ออกบวชจากตระกูลพราหมณ์ ทรงคัดค้านคำกล่าวอ้างของพวกพราหมณ์
ที่ถือว่าพราหมณ์เป็น
วรรณะประเสริฐที่สุด และถือว่าชาติกำเนิดเป็นเครื่องตัดสินความประเสริฐและความต่ำทรามของมนุษย์
ทรงแสดง
ให้เห็นว่าความประเสริฐหรือต่ำทรามนั้นอยู่ที่ความประพฤติ โดยมีธรรมเป็นเครื่องตัดสิน
คนวรรณะต่าง ๆ ออก
บวชในพระพุทธศาสนาแล้ว ย่อมชื่อว่าเป็นผู้เกิดจากธรรมเสมอกันหมด แล้วทรงแสดงความเป็นมาของสังคมมนุษย์
เริ่มแต่เกิดมีสัตว์ขึ้นในโลกแล้วเปลี่ยนแปลงตามลำดับจนเกิดมีมนุษย์ที่อยู่รวมกันเป็นหมู่เป็นพวก
เกิดความจำเป็น
ต้องมีการปกครอง และมีการประกอบอาชีพการงานต่างๆ กัน วรรณะทั้งสี่ก็เกิดจากความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
มิใช่
เป็นเรื่องของพรหมสร้างสรรค์ แต่เกิดจากธรรม (ธรรมดา, กฎธรรมชาติ) ทุกวรรณะประพฤติชั่วก็ไปอบายได้
ปฏิบัติ
ธรรมก็บรรลุนิพพานได้ ธรรมเป็นเครื่องตัดสิน และธรรมเป็นของประเสริฐสุด ผู้ที่สิ้นอาสวกิเลสแล้ว
เป็นผู้
ประเสริฐสุดในวรรณะทั้งสี่ ผู้ที่สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้ประเสริฐสุดในบรรดา
เทวะ และมนุษย์ทั้งปวง