อศุภ - อสังหาริมะ
อศุภ ดู
อสุภ
อโศกมหาราช
พระราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์หนึ่งของชมพูทวีป และเป็นพุทธศาสนูปถัมภกที่สำคัญยิ่ง
เป็นกษัตริย์
พระองค์ที่ ๓ แห่งราชวงศ์โมริยะ ครองราชสมบัติ ณ พระนครปาฏลีบุตร ตั้งแต่
พ.ศ. ๒๑๘ ถึง พ.ศ. ๒๖๐ (นัก
ประวัติศาสตร์ปัจจุบันส่วนมากว่า พ.ศ. ๒๗๐-๓๑๒) เมื่อครองราชย์ได้ ๘ พรรษา
ทรงยกทัพไปปราบแคว้นกลิงคะที่
เป็นชนชาติเข้มแข็งลงได้ ทำให้อาณาจักรของพระองค์กว้างใหญ่ที่สุดในประวัติชาติอินเดีย
แต่ในการสงครามนั้น มี
ผู้คนล้มตายและประสบภัยพิบัติมากมาย ทำให้พระองค์สลดพระทัย พอดีได้ทรงสดับคำสอนในพระพุทธศาสนา
ทรงเลื่อมใสได้ทรงเลิกการสงคราม หันมาทำนุบำรุงพระศาสนาและความรุ่งเรืองในทางสงบของประเทศ
ทรงสร้าง
มหาวิหาร ๘๔,๐๐๐ แห่ง ทรงอุปถัมภ์การสังคายนาครั้งที่ ๓ และการส่งศาสนทูตออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาใน
นานาประเทศ เช่น พระมหินทเถระไปยังลังกาทวีป และพระโสณะพระอุตตระ มายังสุวรรณภูมิ
เป็นต้น ชาวพุทธ
ไทยมักเรียกพระองค์ว่าพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช
อโศการาม ชื่อวัดสำคัญที่พระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างในกรุงปาฏลีบุตร
เป็นที่ทำ สังคายนาครั้งที่ ๓
อสมานาสนิกะ
ภิกษุผู้มีพรรษาอ่อนแก่กว่ากันเกิน ๓ พรรษา นั่งอาสนะคือเตียงตั่งสำหรับ ๒
รูป เสมอกันไม่ได้ (แต่
นั่งอาสนะยาวด้วยกันได้) เทียบ สมานาสนิกะ
อสังขตะ ธรรมที่ปัจจัยมิได้ปรุงแต่ง,
ธรรมที่ไม่เกิดจากเหตุปัจจัย ได้แก่พระนิพพาน
อสังขตธรรม ธรรมอันมิได้ถูกปรุงแต่งได้แก่
นิพพาน (ข้อ ๒ ในธรรม ๒)
อสังขารปรินิพพายี
พระอนาคามี ผู้จะปรินิพพานด้วยไม่ต้องใช้ความเพียรมากนัก (ข้อ ๓ ในอนาคามี
๕)
อสังขาริก ดูที่
สสังขาริก
อสังสัคคกถา
ถ้อยคำที่ชักนำไม่ให้คลุกคลีด้วยหมู่ (ข้อ ๔ ในกถาวัตถุ ๑๐)
อสังหาริมะ ซึ่งนำเอาไปไม่ได้,
เคลื่อนที่ไม่ได้, ของติดที่ ขนเอาไปไม่ได้ เช่นที่ดิน โบสถ์ วิหาร เจดีย์
ต้นไม้ เรือน
เป็นต้น เทียบ สังหาริยะ